เจ้าคนนายคน สิ่งที่สังคมไทยหลอกคุณมาตลอดชีวิต

เจ้าคนนายคน สิ่งที่สังคมไทยหลอกคุณมาตลอดชีวิต

ผมเชื่อว่า ท่านผู้อ่านน่าจะเคยได้ยินคนที่มีอายุมากกว่าเรา เค้าพูดกันบ่อยๆว่า ตั้งใจเล่าเรียน โตขึ้นมาจะได้เป็นเจ้าคนนายคน จะได้สบาย นั่นคือสิ่งที่หอมหวานล่อหลอกให้เราเข้าไปติดกับ เพราะว่า ไม่มีใครอยากลำบากครับ ทุกคนอยากสบาย อยากมีเงินใช้ไปตลอดโดยไม่ต้องทำอะไรเลยยิ่งดี (ผมยกมือก่อนคนแรก ว่าผมก็เป็นอย่างนั้นแหล่ะ ใครล่ะจะอยากลำบาก ถ้าเลือกได้อยู่สบายๆดีกว่า)

การเป็นเจ้าคนนายคน แล้วจะสบาย ก็เลยเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่ง จะต้องเป็นเจ้าคนนายคนให้ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นคำที่คนมีอายุ พร่ำบอก หรือ ละครหลังข่าวของไทยเองก็ตาม ต่างก็สื่อออกมาเป็นอย่างนั้น เพราะการเป็นเจ้าคนนายคน ตัวเองก็จะได้ไม่ต้องทำอะไร ชี้นิ้วสั่งให้คนนั้นคนนี้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็แค่คิดอย่างเดียว สบายจัง มาทำงานก็สาย ไอตัวเรายังต้องตอกบัตรลงเวลาเข้างาน ยังไม่ทันเลิกงานก็หายกลับไปก่อนแล้ว เราก็นั่งทำงานไปดึกดื่นยังไม่เสร็จสักที พรุ่งนี้ต้องส่ง บลา บลาๆ

แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นโดยที่หลายคนไม่ทันได้สังเกตุ ก็คือ

ทำงานหนักกว่าลูกน้อง - การเป็นเจ้าคนนายคนแท้จริงแล้ว เป็นคนที่ทำงานหนักกว่าลูกน้องเสมอ แต่ลูกน้องมักจะมองไม่เห็น ยกตัวอย่าง เจ้านายเดินมาสั่งให้เราทำอันงานสักอันนึงให้เวลา 3 วัน แล้วเค้าก็เดินไป เราก็คิดว่า อะไรแค่สั่งแค่เนี้ย เราทำงานเสร็จผลงานก็เป็นของเค้า แล้วเราก็ต้องเสียเวลา 3 วันทำมันอย่างหนัก แต่คุณอาจจะไม่รู้ว่า ก่อนที่เค้าจะเดินมาสั่งให้ทำนั้น เค้าได้ไปคิดวิเคราะห์มาก่อนแล้ว ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป เพื่อให้บริษัทอยู่รอด หรือว่าได้กำไรที่ดีที่สุด ก่อนที่จะเดินมาออกคำสั่งเรา ซึ่งเค้าอาจจะต้องวิเคราะห์จากข้อมูลต่างๆเป็นจำนวนมาก ประมวลออกเป็นสิ่งที่คาดการณ์ว่าน่าจะเป็น เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากที่เค้าเดินจากเราไป เค้าอาจจะต้องไป คิดวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อเตรียมการใน project อื่นๆต่อก็ได้ 

แก้ตลอดทุกปัญหา - การที่เป็นหัวหน้า หรือเจ้าคนนายคนนั้น เวลาลูกน้อง หรือใครก็ตาม เกิดปัญหา ก็จะเอาปัญหามารวมเอาไว้ที่หัวหน้าทั้งนั้น ด้วยความคาดหวังว่าหัวหน้าจะแก้ไขได้ รวมทั้งคุณอาจจะไม่ได้เห็นหรอก เวลาที่เค้าเจอปัญหาอะไรแล้วเค้าก็พยายามแก้ไขด้วยตัวเองไปก่อน โดยหลายปัญหาถูกแก้โดยไม่ต้องถึงมือเราเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่มีหัวหน้าคนไหนอยากให้บริษัทปั่นป่วนวุ่นวายเพราะปัญหาที่ตัวเองไม่แก้แน่นอน

เวลาส่วนตัวหายไป - การเป็นลูกน้องที่แสนธรรมดา หรือว่า เป็นมนุษย์เงินเดือนคนนึง ก็ไม่ได้มีความรับผิดชอบอะไรมาก เสาร์อาทิตย์ก็เที่ยว เดี๋ยววันจันทร์ก็ค่อยมาเริ่มงานใหม่ แต่รู้หรือไม่ว่า ระดับหัวหน้าต่างๆเค้าทำงานตลอด แม้ว่าไม่ใช่เวลางานก็ตาม นี่เป็นปกติของหัวหน้าเลยครับ แต่ว่า ไม่มีใครเคยเห็นเท่านั้นเอง เพราะเราไม่ได้มีชีวิตอยู่กับเค้าตลอด  24 ชั่วโมง เสาร์อาทิตย์บางทีไปเที่ยวพักผ่อนให้สบายใจ ก็มีโทรศัพท์เรื่องงานเข้ามาทำให้การเที่ยวครั้งนั้นหมดสนุกก็เป็นได้

เงินเดือนดี แต่ไม่มีเวลาใช้ - เพราะจะใช้ก็ต้องดูโอกาสก่อน ว่าเหมาะหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นอาจจะเจอเหตุการณ์แบบข้อข้างบนได้

เงินเดือนได้เท่าไร ก็ใช้หมด - เพราะเมื่อเป็นหัวหน้า ภาษีสังคมก็เริ่มสูงขึ้น มีลูกน้องในปกครอง เดี๋ยวลูกน้องก็ต้องชวนไปนั่น มาเที่ยวนี่ เดี๋ยวคนนั้นแต่งงาน เดี่ยวคนนี้ บวช ลูกเข้าเรียน หลานรับปริญญา โอย เยอะครับ ยังไม่นับที่ต้องพาลูกน้องไปเลี้ยงตามโอกาสต่างๆอีก หลายๆครั้งก็เบิกบริษัทไม่ได้นะครับ ควักเองล้วนๆ

ไม่มีคำว่า routine - ลูกน้องโดยทั่วไปก็จะทำงานที่ซ้ำซาก ซ้ำซากเหมือนเดิม ตลอดทั้งเดือนทั้งปี แต่หัวหน้าจะต้องเจองานที่แปลกใหม่ตลอดเวลา เพราะเค้าจะได้พบกับอะไรที่เค้าไม่เคยเจอมาก่อน เหมือนเล่นเกมส์ชีวิตที่เปลี่ยนด่านไปเสมอ แต่กับลูกน้อง มันคือเกมส์แบบเดิมที่ฉายแบบเดิม เรามีหน้าที่เล่นให้จบเท่านั้น ก็ได้รับเงินเดือนแต่ละเดือนแล้ว

รับผิดก่อน รับชอบอาจจะทีหลัง - หากเกิดความผิดพลาดต่างๆขึ้นมา หัวหน้าจะเป็นคนแรกที่โดนสอบก่อน เพราะว่าต้องอธิบายได้ว่า ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นได้เราพลาดอะไรตรงไหน ส่วนเมื่อทำอะไรได้สำเร็จ ความสำเร็จต้องยกให้ทีมก่อน

เป็นอย่างไรครับ อีกแง่มุมนึง ที่บอกว่าเป็นเจ้าคนนายคนแล้วจะสบาย ยังสบายอย่างที่คิดมั้ยครับ ที่คนมีอายุเค้าชอบพูดอย่างนั้นเพราะว่าเค้าเองก็ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เค้าจะได้สัมผัสแค่ว่า สั่งลูกน้องทำงาน ตัวเองนั่งสบายๆรับเงินเดือนเรือนแสน แต่ลองคิดมุมตามความเป็นจริงนะครับ ถ้าหัวหน้าที่ว่าเนี่ย เค้าได้เงินเดือน แสนนึง แต่ถ้าผลงานของเค้า ตีค่าออกมาเป็นเงินได้เดือนละ 3 หมื่นบาท จะมีบริษัทไหนจ้างเค้าไปเพื่ออะไรครับ นี่ครับ คือความจริง ดังนั้นไม่ได้สบายอย่างที่คิด เค้าจ้างคุ้มเงินค่าจ้างแน่นอน ถึงกับมีคนกล่าวเอาไว้ว่า ถ้าคุณอยากได้เงินเดือนแสนนึง ไม่ยาก แค่มีความสามารถสร้างเงินกำไรให้บริษัทให้ได้เดือนละ 2 แสน ก็ยินดีจะขึ้นเงินเดือนให้เป็นเดือนละแสนให้ทันที แค่นั้นเองครับ

ความจริงอันน่าเศร้าก็คือ เรื่องพวกนี้ผมเจอมาหมดและ และนี่ก็เป็นสิ่งที่ผมพบว่า มันไม่เหมือนกับความฝันในวัยเด็กเลยแม้แต่น้อย แต่นี่แหล่ะครับคือชีวิตจริง

ถ้าคุณเป็นคนที่ทำงานหนักทั้งหมดนี้ แต่ก็ยังไม่ได้เป็น เจ้าคนนายคนกับเค้าสักที? ไม่ยากครับ ทำเหมือนเดิม หรือให้ดีกว่าเดิมขึ้นไปอีก พร้อมทั้งพยายามพบปะผู้คนที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับเล่าให้เค้าเหล่านั้นฟังว่าคุณได้แก้ปัญหาอะไรให้กับบริษัทที่คุณทำอยู่ได้บ้าง เชื่อผมครับ ว่าไม่นานคุณจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าคนนายคนอย่างแน่นอน แต่.... ถ้าทำอย่างที่ผมบอกแล้ว คุณก็ยังไม่ได้ไปไหนสักที หลายปีก็แล้ว มันก็เหลือแค่สองประเด็นครับ อันแรกคือ คุณต้องเปลี่ยนกลุ่มที่คุณพบเจอเป็นกลุ่มอื่นบ้าง ที่แตกต่างจากที่ผ่านมา หรือสอง คือเค้ารู้มาว่าคุณไม่ได้ทำได้อย่างที่คุณพูดได้จริง เพราะการจะจ้างคนเงินเดือนแพง เค้าก็ต้องสืบมาพอควรเหมือนกัน ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นอะไรยังไง

ดังนั้น งานดี เงินสบาย ทำงานทั้งวันได้พันห้า เดินไปเดินมารับห้าพันเนี่ย เราคงต้องดูองค์ประกอบให้ครบถ้วนแล้วล่ะครับ

Create: Modify : 2014-11-05 22:22:06 Read : 9509 URL :